------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าเราเหนื่อยล้า ...บางทีไม่ต้องเดินเข้าป่า แค่จองตั๋วแล้วบินมาจิบชาที่ เชียงใหม่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สองวันหนึ่งคืนกับทริปเชียงใหม่ ที่เหมือนอยู่ใกล้ๆ จากกรุงเทพ ( ก็บินแค่ชั่วโมงเดียวเองนี่นา 555 ) เป็นวาเคชั่น
ระยะสั้นที่มีความหมาย เพราะได้มาพักแบบจริงๆ นั่งนิ่งๆ มองฟ้า มองน้ำ ที่พักเราเป็นแบบบูทีคโฮเท็ล ใกล้ริมน้ำปิง
สงบ และสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่ที่เค้าบอกว่า อยู่มากว่า 120 ปีแล้ว .....เราถึงที่พักก็เกือบเที่ยงแล้ว เก็บของเข้า
ห้องพัก หลับสักงีบ 555 ตื่นมาก็เริ่มหิวค่ะ ..เราจึงเดินสำรวจรอบๆ บริเวณใกล้ๆที่พัก ว่ามีร้านอะไรที่เราพอจะฝาก
ท้องไว้ได้บ้าง และ เราก็เจอค่ะ เดินได้สบายๆ ไม่ไกลจากที่พักเลย (เรียกว่าใกล้มาก น่าจะดีกว่าค่ะ ) ร้านชื่อ
นครา จาร์แดง ( Nakara Jardin ) ร้านร่มรื่น บรรยากาศเย็นสบาย สีเขียวของต้นไม้ ตัดกับสีขาวของการตกแต่ง
ร้าน น่ารักมากๆ ค่ะ อยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ร้านนี้เปิดมา 5 ปีแล้วค่ะ เจ้าของร้านบอกว่า ตั้งใจให้บรรยากาศร้านเป็นแบบ
Open Air เน้นทานอาหารในสวนบรรยากาศแบบสบายๆ ( ซึ่งเค้าไม่มีที่นั่งใน Indoor เลยค่ะ ) ถ้ามาช่วงหน้าหนาวนี่
นั่งชิลริมน้ำจะฟินกับลมพัดเย็นเบาๆ เลยค่ะ แต่ถ้ามาช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็ไม่ร้อนมีลมพัดมาเป็นระยะๆพอชื่นใจด้วย
ความโปร่งของร้าน บรรยากาศสวนสวย กับพัดลมไอน้ำตัวใหญ่โดยรอบ ...นั่งเพลินเลยล่ะค่ะ
" ภายในบริเวณร้านค่ะ โปร่ง โล่ง สบาย "
" รอบๆ บริเวณร้านค่ะ "
" มุมไหนๆ ก็สบายตาค่ะ "
"มุมน่ารัก ๆของร้าน"
และด้วยความหิวโหย....ทำให้เราสั่งอาหาร.....เอ่อ ..เอาจริงๆ ก็ดูไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ แค่
หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว หญ้าฝรั่น ( Steamed Mussels Saffron White Wine )
เฟตตูชินีหมึกดำผัดเบคอน พริกแห้ง น้ำมันมะกอก (Black Fettuccine Bacaon dried Chilli Olive Oil) และ
สปาเกตตี้ครีมชีสเบคอน ( Spaghetti White Cream Cheese Bacon )
( ทั้งหมดนี่ไม่ได้ทานคนเดียวนะคะ ทานกันสองคน และไม่เหลือร่องรอยทิ้งไว้ให้รู้เลยค่ะ ว่าก่อนหน้านี้ในจานนั้น
คืออะไร 555)
" นี่คือหน้าตาตอนที่มาเสิร์ฟค่ะ อร่อยทุกจาน ซึ่งหลังจากนี้ เหลือแต่จานเปล่าค่ะ"
ของคาวอิ่มแล้วค่ะ ...จะไม่ทานของหวานได้ยังไงล่ะคะ 555 เราสั่ง Rose Mousse ซึ่งตักคำแรกเข้าไป อื้อหืมมม
เนื้อนุ่มละมุนลิ้นมากค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกลีบกุหลาบ อร่อยมากๆค่ะ และพอเราได้ลองถามเชฟดู เชฟบอก
ว่า “กลิ่นกุหลาบนี้สกัดจากกุหลาบจริง ๆ ส่งตรงมาจากฝรั่งเศส ไม่ใช่กลิ่นสังเคราะห์ เลยหอมเป็นธรรมชาติ
ทานแล้วชื่นใจ ส่วนตัวมูสจะตีวิปปิ้งครีม และไข่ให้ค่อนข้างเซ็ทตัว ด้านล่างฐานเป็นเลดี้ฟิงแยมด้านในเป็นซอส
ราสเบอรี่โฮมเมด ซึ่งของร้านนี้ส่วนใหญ่เค้าจะทำเอง ไม่ใช่ของสำเร็จรูป
" เนื้อนุ่มละเอียด กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ที่สำคัญไม่หวานมากด้วยค่ะ มาแล้วไม่ควรพลาดค่ะ "
" Rose Mousse"
เราได้คุยกับเชฟต่ออีกหน่อย เชฟบอกว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มา ก็จะมาทานเป็น Afternoon Tea ค่ะ ซึ่งเราได้ดู
เมนูของ Afternoon Tea แล้ว ขอบอกว่า อลังการมากเลยค่ะ Set สำหรับ 2 ท่านนี่ สามารถเลือกเครื่องดื่มได้ทุก
อย่างในเมนูเลยค่ะ ส่วนอื่นๆ ก็จะมีสตรอเบอรี่ Snack ต่างๆ แซนวิช สโคน เค้ก ของหวาน ทาร์ตผลไม้
อื้อหือ !!! เยอะแยะเลยล่ะค่ะ ชาของเค้าก็เป็นชาของ รอนเนอเฟลด์ ( Ronnefeldt )จากเยอรมัน ซึ่งจริงๆ
เทียบเท่ากับ มาคิยาจ แฟรส์ ( Mariage Frères ) จากฝรั่งเศสเลยล่ะค่ะ ขาชาต้องไม่พลาด !!! ..
อยากให้ได้มานั่งชิลมานั่งชิมกันค่ะ ร้านเปิด 11.00 – 19.00 น. ปิดวันพุธค่ะ
ทานเยอะขนาดนี้ ต้องขอกลับไปนอนต่ออีกซักรอบล่ะค่ะ 555 ก็นี่เรามาพักร้อนนี่คะ.... กิน นอน เที่ยว แฮปปี้
เหลือเกินค่า ;)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และพิเศษสำหรับชาวกรีนเวฟ ช่วงนี้นคราจาร์แดงเค้าใจดี แค่โชว์กรีนเวฟใน APP A-TIME ONLINE ก็ได้รับเมนู
พิเศษ คือ .... ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018 นี้ อย่าลืมไปสัมผัสความนุ่มละมุนลิ้นของเบเกอร์รี่ที่นี่ และบรรยากาศดีๆ
ริมแม่น้ำปิงกันนะคะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและความสวยงามของร้านกันได้ที่
เรื่องโดย ..คนหนีเที่ยว : KARUPREEYA